รีวิว Chasing the Wind (2024) กระซิบรักผ่านสายลม
สำหรับใครที่เป็นคอซีรี่ย์แนว โรแมนติก, วัยรุ่น และ กีฬา ไม่ควรพลาดไปกับการรับชมชมเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นซีรี่ย์ที่ถูกส่งตรงมาจากประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ และยังเป็นการดัดแปลงบทขึ้นมาจากนวนิยายเรื่อง I Will Like to Tell the Wind ของ “Tang Zhi Feng” นักแต่งนิยายชื่อดัง สำหรับซีรี่ย์เรื่องนี้ยังได้นักเขียนบทมากประสบการณ์อย่าง “Ba Yue Chang An” เข้ามาเรียบเรียงดัดแปลงบทในครั้งนี้อีกด้วย นอกจากนี้แล้วก็ยังเป็นการกำกับโดย “Zou Xi” ผู้กำกับที่มีชื่อเสียงในการกำกับละครซีรี่ย์เรื่องต่างๆของจีนไม่ว่าจะเป็น “ปริศนาลับ “ขั้วสุดท้าย” และเรื่องนี้เลยเป็นเรื่องล่าสุดของเขา “ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก A Journey to Love” นอกจากนี้เขายังก็ยังได้นักแสดงแถวหน้าเข้ามารับบท

อย่าง “เจียงเจินอวี่” นางเอกสาวสุดน่ารัก ที่มีผลงานการแสดงในเรื่อง “ดรุณควบม้าขาวเมามายลมวสันต์” ในบทนักแสดงเสริม โคจรมาเจอกันกับพระเอกหนุ่มไฟแรงอย่าง “กู่จื่อเฉิง” ที่มีผลงานมาแล้วเช่นกันอย่างเรื่อง “คะนึงรักหัวใจเพรียกหา” บทบาทนักแสดงเสริม ครั้งนี้เขาจะเข้ามายกระดับเล่นเป็นพระเองของเรื่องอย่างเต็มตัว พร้อมด้วยนักแสดงรับเชิญคนอื่นๆไม่ว่าจะเป็น กู่จื่อเฉิง, ซือหมิงเจ๋อ, เฉินเจียเหวิน, เซี่ยหนิงจวิ้น และ เจิงโย่วเจิน ที่จะเข้ามารับสมบทความสนุกในครั้งนี้ สำหรับซีรีส์เรื่องนี้จะออนแอร์ออกอากาศในวันที่ 21 ธันวาคม 2024 ที่จะถึงนี้พร้อมด้วยรูปแบบแบบของซับไทย จำนวน 20 ตอนจบ สำหรับใครที่รอหรือติดตามซีรี่ย์เรื่องใหม่ๆ ไม่ควรพลาดไปกับการรับบชมเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด

เรื่องย่อ กระซิบรักผ่านสายลม Chasing the Wind (2024)
เป็นเรื่องราวหลังจากมีการแข่งขันในวัยเด็ก “หลินเก๋อ” (นำแสดงโดย เจียงเจินอวี่) ก็ถูก “เนี่ยฉือ” (นำแสดงโดย กู่จื่อเฉิง) ได้แนะนำให้เข้าโรงเรียนทางด้านกีฬา และเริ่มต้นการเล่นกีฬาเป็นสายอาชีพนั้นก็คือ การเล่นกีฬาสเก็ตความเร็วระยะสั่นๆ “หลินเก๋อ” เธอเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี ที่กล้าได้กล้าเสีย แต่เธอก็ยังเป็นคนที่ละเอียดอ่อน ในส่วนของ “เนี่ยฉือ” เขากลับเป็นคนรอบคอบเฉียบขาดที่มีความมุ่งมั่นในความฝัน พวกเขาทั้งสองได้เติบโตขึ้นมาพร้อมกัน ในโรงเรียนกีฬา ภายใต้ความห่วงใยและความรักของโค้ช “ฟางซื่อโจ” (นำแสดงโดย Sun Da Chuan) ที่เป็นเหมือนกับพ่อแท้ของพวกเขา พวกเขาได้เข้าร่วมทีมมณฑลด้วยกันกับ “ฟางเชา” (นำแสดงโดย ซือหมิงเจ๋อ) ซึ่งเป็นลูกชายของโค้ช “ฟางซื่อโจ” ซึ่ง “หลินเก๋อ” เธอได้เกิดในครอบครัวที่มีความซับซ่อน และในความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว จึงทำให้เธอไม่ค่อยมีวินัย ในการฝึกซ้อมมีพื้นฐานอ่อน ในส่วนของ “เนี่ยฉือ” เขากลับเป็นคนตรงไปตรงมาที่แสนเย็นชา ค่อนข้างยากในการปรับตัว กับการฝึกซ้อมแบบกลุ่มได้ จึงทำให้ชีวิตของเขาค่อนข้างลำบากอยู่เรื่อยๆ แต่ก็ยังดีทั้งสามคนคอยหนุนหลังซึ่งกันและกัน จากนั้นไม่นาน “เนี่ยฉือ” ก็ค่อยๆมีความรู้สึกดีต่อ “หลินเก๋อ” เมื่อเวลาเข้าแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ของงานฤดูหนาวที่จะใกล้เข้ามา ก็เริ่มการฝึกฝนอย่างหนักของทีมมณฑลที่มีโค้ช “หานปิง” ค่อยดูแล เหล่าเด็กๆก็สามารถกลายเป็นสมาชิกทีมชาติได้อย่างรวดเร็ว สุดท้ายแล้วพวกเขาจะสามารถคว้าชัยชนะให้กับประเทศชาติได้หรือไม่ต้องไปรับชมกัน